เกี่ยวกับชมรม

ชมรมนี้จัดทำขึ้นเพื่อนำเสนอ เรื่องราวทั้งจริง และหรือกึ่งจริง ทั้งนี้เพื่อความสนุกสนานในการสร้างอารมณ์อันสุนทรีกับผู้ที่ชื่นชอบเรื่องสวิงกิ้ง เท่านั้น ใครมีเรื่องราวดีๆ มันๆ อย่าเก็บไว้คนเดียวส่งมาให้เพื่อนๆได้อ่านกันที่ E-mail : ped1972@gmail.com นะครับ

02 มกราคม 2553

ล้างจาน

จบการศึกษารับปริญญาแล้วก็ได้งานทำย้ายที่อยู่ จากสะพานควาย มาราชดำเนิน สวนทางกับธนาคารออมสิน ที่จะย้ายจากราชดำเนินไปอยู่สะพานควาย เป็นบ้านแบ่งเช่า ได้อยู่ชั้นบน บันไดทางขึ้นถูกคั่นแยกส่วน มีประตูเข้าบ้านต่างหาก เป็นช่องทางเดินระหว่าง ห้องเจ้าของบ้านกับครัวเดิม ซึ่งเปลี่ยนเป็นห้องเย็บจักรที่เจ้ไล ใช้เย็บตัดเสื้อผ้า เจ้ไลเป็นภรรยา ของคุณพงศ์ข้าราชการชั้นโท ยุคนั้นชั้นโทก็มีหน้ามีตาพอตัว เจ้ไลอายุยี่สิบเก้า ส่วนคุณพงศ์ สามสิบหก คุณพงศ์ มักจะออกติดตามเจ้านายไปราชการต่างจังหวัดเดือนละครั้งๆละราวสิบวันออกไปกันแต่ยังไม่สว่าง
เจ้ไลเป็นคนสวย หน้ารูปไข่ ตาโตคมวาว แก้มมีลักยิ้มสองข้าง รูปร่างทรวงทรงเอวองค์ก็อรชร นมโต เอวคอดกิ่ว ตะโพกผาย เวลาเดินยักย้าย ยวนกวนอารมณ์เหลือทน ด้านตรงข้ามตะโพกก็โหนกนูน คุณพงศ์จึงแสนรักแสนหลง วันอาทิตย์ เจ้ไลหยุดเย็บผ้า อุทิศเวลาให้สามี จู๋จี๋จุกจิก เป็นรอบกลางวัน ผมเห็นก็แกล้งไม่เห็นเรื่องผัวเขาเมียเขาจะเอากันเวลาไหน ไม่เอาคานเข้าไปสอด มารู้ภายหลังว่ารอบกลางวันนี้เป็นรอบพิเศษที่เจ้ไลเป็นฝ่ายกำหนด เพราะเชื่อว่ากลางคืนสิบไม่สู้กลางวันหนึ่ง ปิดบ้านปิดช่องเงียบ แล้วรุมกันตีแมว นานๆเข้าคุณพงศ์ไม่ค่อยสู้ ทำเอาเจ้ไล จิตหงุดหงิมก็บ่อย แอบมาตำตาหวานกับผม ผมก็แกล้งไม่สนใจ ทั้งที่จริงแล้ว แสนกระสัน เรียกว่าเอาไว้เชิงไว้ท่าดูลีลากันไปก่อน ประมาณเครื่องเคราดูเอาการ เห็นนอกผ้ายังซ่านซึ้งตึงไปทั้งลำ ก็ทำเป็นผมไม่เคยไว้ก่อน ยิ่งคนหน้าอ่อนท่อนแข็งอย่างผมนี่หลอกสีมาเยอะแล้ว ผมเป็นเด็กไม่รู้เดียงสา ในสายตาของเจ้ไล แต่พยายามยั่วเย้าผมอยู่เรื่อย เวลาคุณพงศ์ไม่อยู่ ตอนค่ำๆบางคราวก็ขึ้นไปจัดกวาดห้องให้ผม มีอยู่คราวหนึ่งถึงกับขยับจัดห้องให้ใหม่ย้ายตู้ย้ายเตียงนอน บอกว่าย้ายเข้าที่เก่า ทุกครั้งผมหลบลงมาอยู่ข้างล่าง เจ้ไลกลับลงมา ผมก็ออกข้างนอก นานๆครั้งที่จะใกล้ชิดเจ้ไลสักครั้งเล่นพอให้อยากๆ แล้วแกล้งห่าง พอรู้สึกจะห่างเหินก็มาชิดใกล้ใหม่ เหมือน สทาร์ตเครื่องรถพอใกล้จะติดก็หยุด สทาร์ต แล้วค่อยมาเริ่มใหม่
ดูเหมือนว่าต่างฝ่ายต่างซ่อนความรู้สึก สงวนท่าที และต่างรอให้ฝ่ายตรงข้ามเป็นฝ่ายเขี่ยลูกเข้าเล่นก่อน จริตมารยาหญิง เล่ห์เหลี่ยมชาย กำลัง จ้องจะเอาชนะกัน
ผมต้องยอมรับว่าเจ้ไล เป็นสาวใหญ่สาวรุ่นพี่ที่ปลุกเร้าอารมณ์ผู้ชายมากที่สุด ทุกส่วนของเรือนร่าง ทรวดทรง รอยยิ้ม แววตา น้ำเสียง อากัปกิริยาต่างๆ เร้าอารมณ์สังวาสให้ลุกโพลง ผมวางแผนตลอดเวลา มีช่องทางหลายครั้งแต่ยังไม่แนบเนียน ใจเย็นๆ
เรื่องขยับย้ายตูย้ายเตียงนอน ผมถามเจ้ไลว่าต้องไปโยกไปย้ายมันทำไม อยู่ตรงไหน ผมก็นอนได้ไม่คำนึงถึงทิศทาง ไม่เชื่อโชคลาง เจ้ไลบอกว่าที่ย้ายเปลี่ยนที่ไม่ใช่เพราะความเชื่อหรือไม่เชื่อโชคลาง แต่คนที่อยู่เดิมชอบใช้ร่องกระดานพื้นเป็นที่ถ้ำมองเวลาเจ้ไลกับคุณพงศ์ปฏิบัติกามกิจ เลยไม่ให้อยู่ต่อ แล้วขยับเตียวนอนมาบังร่องปิดทางถ้ำมอง ผมเลยแหย่ไปว่าแล้วไม่กลัวผมจะแอบดูหรือ เจ้ไลบอกว่าไม่กลัวเพราะแน่ใจแล้วว่าผมไม่เป็นเรื่อง แล้วผมก็ไม่แอบดูจริงๆด้วย ฟังเอาแต่เสียงก็รู้ว่าเจ้ไล อารมณ์ค้างบ่อย แล้ววันหนึ่งเจ้ไล ถามขึ้นว่าได้แอบดูบ้างหรือยัง ผมแกล้งทำหน้าไม่สบายใจ เหมือนมีกังวน หลังจากวันนั้นผมมารยาออกจากบ้านเช้า กลับบ้านดึก สังเกตเจ้ไลทำท่าจะเลียบเคียงถาม มาได้โอกาสตอนคุณพงศ์ไปราชการ เจ้ไลขึ้นไปคอยผมบนห้อง โดยนอนคอยบนเตียง พอผมกลับถึงบ้าน เข้าห้องไปพบเจ้ไล ก็ถูกต่อว่าว่าทำตัวแปลกๆ ไม่พอใจไม่สบายใจเรื่องอะไรทำไมไม่บอกเล่ากัน ผมเลยมุสาไปว่า ผมกำลังหาบ้านอยู่ใหม่ อยู่ที่นี่เป็นที่ระแวงของเจ้ไล ผมไม่สบายใจ เจ้ไลบอกว่ารักเหมือนน้องเหมือนนุ่ง มีหรือจะระแวง เจ้ไลลุกขึ้นเดินมากอดผมหอมแก้มซ้ายแก้มขวา แล้วกอดผมแน่น ผมฝืนรู้สึกทั้งที่นมแนบนุ่ม ท้องแนบท้อง ดันร่างเจ้ไลออก บอกให้เจ้ไลกลับลงไปก่อน
สองเดือนถัดมา ถึงกำหนดคุณพงศ์ต้องไปราชการ คุณพงศ์เข้าบ้านสามทุ่มเศษบอกเจ้ไลจัดกระเป๋าเดินทาง บอกออกเดินทางตีสี่ รถจะมารับ เจ้ไลกุลีกุจอรีดเสื้อผ้า จัดลงกระเป๋ากว่าจะเสร็จ สองยามเศษ ได้ยินเสียงอาบน้ำ และเสียงบอกเตือนให้คุณพงศ์ซึ่งหลับเอ้เตอยู่ตั้งแต่กลับเข้าบ้านไปอาบน้ำนอน ได้ยินเสียงกุกกักๆตามด้วยเสียงเจ้ไล
“ไปคราวนี้ ยี่สิบวันเจียวนะ ขอหน่อยนะ”
จากนั้น เป็นเสียงสองคนกระแทกกระทั้น กัน ส่งแรงไปกระทบที่นอน จนเตียงไปกระเทือนข้างฝา เป็นจังหวะรัวเร็ว แล้วหยุด เสียงเจ้ไลบ่น
“ทุกทีเลย กำลังจะดีแล้วเป็นอย่างนี้ทุกที”
เสียงคุณพงศ์ปลอบเจ้ไล อ่อยๆ
“ขอโทษด้วยพี่ตั้งใจมากไปหน่อย ยั้งไม่อยู่ นอนก่อนเถอะ แล้วตื่นเร็วหน่อย จะแก้ตัวให้”
ผมพลอยนอนไม่หลับ จนตีสามเศษ ได้ยินเสียงเจ้ไล บอกคุณพงศ์ไปอาบน้ำล้างหน้า สักพักได้ยินเสียง เจ้ไลบ่น
“แข็งแล้วเอาเสียที ไม่ต้องปลุกแล้ว”
จากนั้นเสียงกิจกามเริ่มบรรเลง พอได้จังหวะคล่องทำนองกาม
“พี่พงศ์ ๆ เจ้านายเปลี่ยนเวลา ไปกันเลย รีบๆ นายรอที่รถ”
เสียงตะโกนเรียกจากประตูรั้วบ้าน พวกที่ไปราชการด้วยกัน เข้ามาตาม
สวรรค์พังครืน ผมพลิกเสื่อน้ำมันหาร่อง รีบแนบสายตามเพ่งมอง คุณพงศ์กำลังแต่งตัว ขณะที่เจ้ไล ฟาดแขนฟาดขาอยู่บนที่นอน เสร็จแล้วคุณพงศ์เปิดประตูด้านหลังหิ้วกระเป้าเดินไปเปิดประตูรั้วออกจากบ้านไป
เสียงคุณพงศ์บ่นเป็นหมีกินผึ้ง ค่อยหายเงียบไป
ผมแกล้งทำเป็นตื่นนอนลงบันใดแรงๆมาเข้าห้องน้ำ ประตูห้องเจ้ไลเปิดกว้างมองเข้าไป เห็นร่าง นอนถ่างแขนถ่างขา คงแกล้งทำเป็นหลับ ผมเดินไปลงกลอนประตูรั้วบ้านบ้าน แล้วย้อนกลับมาเข้าห้องเจ้ไล ไปหยุดยืนดูนางเปลือยอยู่ริมเตียง หน้ายิ้มละไม สองเต้าเต่งตั้งหัวนมเป็นจุกเท่าปลายก้อย อกสะท้อนขึ้นลงเบาๆ ตามจังหวะลมหายใจอย่างสม่ำเสมอ สะดือบุ๋มเป็นหลุมงาม สองแคมพูพูน มีพรมแพรไหมใกล้หนอกหน่าว ร่องแย้มปานจะยิ้ม ยังเยิ้มด้วยเมือกที่หล่อเลี้ยง ที่ค้างคามาจากกามกิจที่ยังไม่เสร็จสิ้น
ทำแกล้งหลับดีนัก เดี๋ยวจะลักหลับ กระทุ้งให้มันท่อนสวรรค์ไปเลย คลายปมกางเกงแพรปล่อยลุ่ยไปกองพื้น ก้าวขึ้นเตียงไปคุกเขาลงตรง หว่างขา เอาท่อนสวรรค์ที่แข็งโด่ เขี่ยร่องธารสวรรค์ไปมา จ่อขยี้ที่เม็ดมณีน้อย แล้วค่อยๆดำดิ่งลงท่อธารค่อนข้างจะคับแน่น กระเด้าเบาๆ แล้วดันสั้นๆ ค่อยเลื่อนไหลลงไปที่ละนิดทีละหน่อย จนสุดทางรัก กระเด้าไปเรื่อยจนคนแกล้งหลับเริ่มมีปฏิกิริยา เด้ง ส่าย รับ หน้าก็พลิกไปมา ผมจับขาข้างหนึ่งตั้งชี้แล้วกอดไว้ กระเด้าทิ่มตำโยกขาไปมา ส่ายหัวเด้าให้ครูดพนังท่อธารสวรรค์เรียกน้ำเลี้ยงหลอหลั่งพลักๆ ดันขาลง ให้ตะโพกบิดตะแคง เร่งแรงกระเด้า ยกขาอีกข้างขึ้นมือจับสองขา ตรงขาพับ ดันให้ตะโพกลอย ขยับเข้าชิดให้สองท่อนขาของผมรับตะโพกแล้ว กระเด้าต่อ ทุกจังหวะกระเด้า เกิดลอนหน้าท้อง กระเพื่อมๆ เขยื้อนขยับ แรงส่งต่อไปยังสองเต้ากระฉอกกระฉอนไปเป็นจังหวะ สองมือเจ้ไลกำรั้งผ้าปูที่นอนแน่น หัวพลิกส่ายไปมา ปากอ้าเป่าลม
แกล้งทำเป็นหลับดีนัก ผมหย่อนตัวลงประกบให้ท้องแนบท้องนมแนบนม แก้มแนบแก้ม ส่วนสลักที่ปักแน่นคงกระเด้าส่ายซ้ายขวาหน้าหลัง พรั่งๆไปด้วยน้ำเมือกหล่อลื่น เสียงดังเฉาะแฉะๆ สงสารแต่เจ้ไล ต้องอั้นเสียงครวญครางไว้อย่างสุดฤทธิ์ ยิ่งตอนที่เอาโคนลำสวาทถูบดขยี้กับเม็ดมณี เจ้ไลโยกโยนตัวขึ้นร่อนเด้งบดต้าน จนเผลอร้อง
ที่สุดเจ้ไลขมิบ ตอด ดูดท่อนลำสวรรค์ ผมเร่องกระเด้าเร็วราวจักรผัน แล้วทิ้งร่างกางแขนกางขา หายใจหอบโยน ผมกระเด้าส่งท้ายสิบครั้ง แล้วถอนตัว เดินกะดอโด่เด่ไปเข้าห้องน้ำ ชำระร่างกายแล้วกลับห้อง ปล่อยเจ้ไลไว้อย่างนั้น
เจ็ดโมง ผมแต่งตัวแล้วลงมาอีกครั้ง ชะโงกดูเจ้ไลยังหลับไม่ตื่น คราวนี้หลับจริงไม่ใช่แกล้งหลับผมใช้มือทุบประตูแรงๆ เจ้ไลสะดุ้งตื่นคงเห็นผมยืนอยู่ที่ประตูรีบคว้าผ้าห่มมาคลุมร่าง ผมเลยกระเซ้า
“ขืนนอนแบบนี้ระวังเถอะ จะโดนตอ”
เจ้ไลคว้าหมอนขวางผม นอกจากจะไม่โดนแล้ว มือที่จับผ้าห่มก็ไม่มีผ้าห่มรูดลงนมหกหมดเลย รีบจับผ้าห่มขึ้นปิดสองเต้า
“เด็กผีทะเลระวังตาเป็นกุ้งยิง แอบดูของเค้า”
“เปล่า ผมเปล่าแอบดู แต่ผมเห็นหมดเลย อู้อู โหนกนูนเป็นพู เต้าตั้ง”
ผมเผ่นแนบออกจากบ้านไป วันนี้ผมตระเวนไปเที่ยวทั้งวัน ถ่วงเวลาค่ำแล้วเข้าบ้านแกล้งเดินย่องๆ ขึ้นข้างบน เข้าห้องแล้วเก็บตัวเงียบ รอเหตุการณ์ คืนนี้แหละจะล่อเจ้ไลให้เต็มคราบ สามทุ่มลงไปอาบน้ำเสร็จแล้วกลับขึ้นห้องอย่างไรเสียคืนนี้ เป็นคราวที่เจ้ไลต้องเอาปลาตะเพียนทองขึ้นมาประเคนถึงข้างบนแน่ ไม่เร็วก็ช้า
สี่ทุ่มได้ยินเสียงฝีเท้าขึ้นบันใดมา แล้วเสียงหยุดเงียบตรงหน้า ตามด้วยเสียงเคาะประตู ผมร้องบอกไปว่า
“ไม่ลงกลอน เปิดได้เลย”
ประตูเปิดออกร่างเจ้ไลยืนเด่นสวมเสื้อคลุมสีฟ้ามีสายรัด ผมยิ้มรับ เจ้ไลจึงเดินเข้ามา ทุกย่างก้าวขาแหวกผ้าแวบออกโชว์ความขาว ตรงมานั่งเคียงข้างผมที่ขอบเตียงนอน พร้อมกับลงเล็บหยิกที่ต้นขา ผมสะดุ้งเจ็บ
“นี่แน่ ลงโทษที่แอบดู เจ้โป๊ เมื่อเช้า”
“เจ้เข้าใจผิด ผมไม่ได้แอบดู ผมดูเต็มๆ ตา แล้วก็ไม่โป๊ แต่เปลือยเลยละ แค่นั้นจริงๆ ยังดูไม่ชัดถนัดตาด้วยซ้ำไป”
เจ้ไลคิดว่าที่แกล้งทำเป็นหลับขณะที่ผมเสพสมขย่ม เอาจนเจ้ไลน้ำแตก ผมคงจะเป็นไก่อ่อนหลงเชื่อ ผมจึงไขสือตามไป
“ได้เห็นของเจ้แล้วมีความสุขซี”
ผมเฉไฉต่อไปอีก
“ สุขก็แคสุขตาเห็น โบราณว่าสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่ามือคลำ สิบมือคลำไม่เท่าทำเอง”
เจ้ไลบอกว่าอยากได้มากว่านั้นขอแล้วจะให้ ยังวางเงื่อนไขอีก เอ้ายอมแพ้ ผมเลยต้องขอเจ้ไล
“นะเจ้นะ แข็งจะเป็นหินแล้ว ดูซิ”
ลากเอามือ เจ้ไลมาจับท่อนสวรรค์ที่แข็งโป้กอยู่ พร้อมกับแหวกเสื้อคลุมล้วงมือเข้าไปกลึงเต้าที่แข็งเป็นไต เจ้ไลถอดกางเกงแพรของผมออก
“โอ้โอ ใหญ่ยาวอย่างนี้เองถึงแน่น ไปทั้งร่อง”
เจ้ไล้ ลืมตัวอุทานออกมา ผมปล่อยก๊าก ออกมา เจ้ไลก็หัวเราะ
“ฮั่นแน่ เมื่อเช้า เจ้แกล้งหลับ ใช่ไหมละ”
เจ้ไลเลยตุบตั๊บผมเป็นการใหญ่ ผมเข้าคลุกวงใน ลอกคราบเจ้ไลจนล่อนจ้อน จูบไซ้สองเต้า ดูดจุ๊บสองจุก ไล้ลงมาใต้เต้า หน้าท้อง เนินโหนก แล้วดันเจ้ไลขึ้นเตียงให้เอนตัวแบบครึ่งนั่งครึ่งนอน เข่าพับตั้ง ใช้หมอนรองตะโพกและรองหลัง ดันขาถ่างออก โชว์อีเฉาะฉีกยิ้ม ท้าทาย หยาดน้ำฉ่ำราวจะหยด แสดงความพร้อม ผมเข้าประชิดจับท่อนสวาทเอาปลายถูขึ้นลงตามร่อง แล้วค่อยๆ ดันลื่นไหลเข้าไป
“คับแน่นดีจัง นะน้องพล”
เจ้ไลก้มมองจู๋กับจิ๋มที่คาบคากันอยู่ เห็นการทิ่มตำทุกจังหวะการเคลื่อนไหว สองมือผมเคล้นเต้า ท่อนกระเด้าก็ทำงานไป ตะแคงตะโพกไปทางขวา ทางซ้าย ข้างบน ลงล่าง ดันเข้าถอนออก ปากก็บอกเจ้ไล ทุกครั้งที่ปรับลีลากระเด้า
“เอียงขวาครูดแคมขวา ปลายเสียดสีผนังร่องด้านซ้าย เอียงซ้ายครูดแคมซ้ายปลายเสียดสีผนังร่องด้านขวา เอียงขึ้นบนครูดแตดปลายเสียดสีฝีเย็บ ลงล่างครูดฝีเย็บ ปลายเสียดสีผนังบน”
แต่พอเร่งเร็วปฏิกิริยาตอบสนองจากเจ้ไลมากขึ้น จนไม่รู้ว่าใครขย่มใครผลักกันรุกผลัดกันไล่ สุดแสนมันสะเด็ดเด่า ท่อนรูถูกันแทบไฟแลบ เอาหัวชนกันก้มดู การพันตูกันเบื้องล่างทิ่มเข้าทิ่มออก จนน้ำหล่อลื่นเป็นฟองฟอด สะใจจริงๆ
ที่สุดของที่สุด ก็เหมือนชานอ้อยที่คายทิ้ง เมื่อได้ซึมซาบสิ้นรสหวาน ที่กำซาบซ่านลิ้น แรงขมิบบีบรัด แรงดูดตอด ที่จิ๋มปฏิสัมพันธ์กับจู๋ ที่กระตุกๆ ภายหลังที่ฉีดพ่นกามอุทก พุ่งเข้าร่องหลุมจิ๋ม พร้อมอาการเกร็งของคนสองฝ่ายที่เหนื่อยอ่อนแทบสายตัวจะขาด
เจ้ไลเจอลูกเล่นของผมเป็นชั่วโมงๆ หลายๆ ครั้งเข้าเลยหย่าศึก บอกว่าหายอยาก ขอนานๆ ครั้ง เพราะแต่ละครั้งมันนาน จนหอยชาไปหมด และกลัวคุณพงศ์ผิดสังเกต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น